ถ้าเป็นชาว YouTube influencer ใน Thailand แล้วอยากขยับสเกลไปจับมือกับแบรนด์จาก United Kingdom แบบจริงจัง วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบไม่มีกั๊ก เหมือนนั่งเมาท์กับเพื่อนในวงการเดียวกัน ว่าต้องทำยังไงให้การ Brand Collaboration ข้ามประเทศมันลื่นไหล ได้กำไร และไม่เจอปัญหาจุกจิก
📢 ภาพรวมตลาด YouTube และ Influencer ใน Thailand กับ UK
ณ วันที่ 2025ปี 5เดือนนี้ YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยใช้เสพคอนเทนต์ โดยเฉพาะกลุ่ม influencer ที่เจาะ niche ชัดเจน เช่น รีวิวสินค้า, ไลฟ์สไตล์, เกม, และบิวตี้ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของแบรนด์ UK มากขึ้น เพราะพวกเขาอยากเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จุดเด่นของ YouTube influencer ใน Thailand คือความเป็นกันเองและการใช้ภาษาไทยที่เข้าถึงง่าย บวกกับวัฒนธรรม Local ที่ทำให้คอนเทนต์ดูน่าเชื่อถือกว่าโฆษณาตรง ๆ
ส่วนฝั่ง UK นั้น แบรนด์ใหญ่ๆ มักจะมองหา influencer ที่สื่อสารกับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Micro & Nano Influencer) และพร้อมลงทุนกับคอนเทนต์คุณภาพสูง ซึ่งตรงกับความถนัดของ influencer ไทยที่มีสกิลการทำวิดีโอและ storytelling ดีไม่แพ้ใคร
💡 วิธีจับมือทำ Brand Collaboration ระหว่าง YouTube influencer ใน Thailand กับแบรนด์ UK
1. ทำความเข้าใจกฎหมายและวัฒนธรรมทั้งสองฝั่ง
การร่วมงานกับแบรนด์ UK ต้องรู้เรื่องภาษีและกฎหมายการโฆษณาทั้งใน Thailand และ UK เช่น การเปิดใบเสร็จเพื่อจ่ายภาษี, กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ของยุโรป รวมถึงกฎเกณฑ์การเผยแพร่โฆษณาบน YouTube
สำหรับตัว influencer ไทย ควรติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาษีหรือที่ปรึกษากฎหมาย เพราะการรับเงินต่างประเทศต้องผ่านระบบที่ถูกต้อง เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารไทย (ใช้เงินบาท – THB) หรือ e-wallet ที่รองรับสกุลเงิน GBP
2. เลือกแพลตฟอร์มและวิธีการจ่ายเงินที่เหมาะสม
หลายแบรนด์ UK ชอบใช้แพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba ที่ช่วยจับคู่ influencer กับแบรนด์ พร้อมระบบชำระเงินและสัญญาที่โปร่งใส ลดความเสี่ยงด้านการเงินและกฎหมาย
แบรนด์ UK มักจ่ายเป็นเงินปอนด์ (GBP) แต่ influencer ไทยควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมโอนเงินระหว่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อไม่ให้ถูกหักค่าใช้จ่ายมากเกินไป
3. เลือกประเภทคอนเทนต์และรูปแบบการร่วมงานที่เข้ากัน
การทำงานร่วมกันระหว่าง YouTube influencer ไทยกับแบรนด์ UK มีหลายรูปแบบ ทั้งการรีวิวสินค้า, สปอนเซอร์วิดีโอ, หรือทำซีรีส์สั้นที่เชื่อมโยงกับแบรนด์
เช่น influencer ชื่อดังในไทยอย่าง “Mint Chalida” ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่น UK ผ่านการทำวิดีโอ unboxing และแชร์ไลฟ์สไตล์การใช้สินค้า ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและยอดขายให้แบรนด์อย่างเป็นรูปธรรม
4. สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเข้าใจเป้าหมายของแบรนด์
งาน Brand Collaboration ที่ดีไม่ได้จบแค่จ่ายเงินแล้วจบ influencer ควรฟังความต้องการของแบรนด์ UK ว่าต้องการสื่อสารอะไรกับกลุ่มเป้าหมายใน Thailand เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์และมี Impact จริงๆ
เช่น แบรนด์เครื่องดื่มจาก UK ที่อยากบุกตลาดไทย อาจร่วมกับ influencer ทำแคมเปญที่เล่าเรื่องวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์คนไทยควบคู่ไปกับการโปรโมตสินค้าแบบเนียนๆ
📊 People Also Ask
YouTube influencer ใน Thailand จะเริ่มหางานกับแบรนด์ UK ได้ยังไง?
เริ่มจากสมัครแพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba ที่มีฐานข้อมูลแบรนด์ UK พร้อมระบบจับคู่ จากนั้นสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ชัดเจนและเน้น niche ที่แบรนด์ UK สนใจ เช่น เทคโนโลยี, บิวตี้ หรือท่องเที่ยว
การรับเงินจากแบรนด์ UK มีวิธีไหนที่ปลอดภัยสำหรับ influencer ใน Thailand?
แนะนำใช้ช่องทางธนาคารที่รองรับการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือระบบ e-wallet ที่ได้รับความนิยมในวงการ เช่น Payoneer หรือ Wise เพื่อความสะดวกและลดค่าธรรมเนียม
ข้อควรระวังทางกฎหมายเมื่อทำงานกับแบรนด์ UK คืออะไร?
ต้องระวังเรื่องภาษีที่อาจเกิดขึ้นทั้งใน UK และ Thailand รวมถึงต้องเคารพกฎหมาย GDPR ที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎการโฆษณาที่เคร่งครัดบน YouTube
❗ สรุป
ถ้าคุณเป็น YouTube influencer ใน Thailand ที่อยากขยายตลาดไป UK การทำ Brand Collaboration กับแบรนด์จาก UK ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ต้องมีการเตรียมตัวอย่างดี ตั้งแต่เรื่องกฎหมาย, การรับชำระเงิน, ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงใจคนดูทั้งสองประเทศ
ลองเริ่มต้นจากการใช้แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้อย่าง BaoLiba ที่ช่วยเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง influencer ไทยกับแบรนด์ UK และอย่าลืมวางแผนระยะยาวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
BaoLiba จะยังคงอัปเดตเทรนด์และเทคนิคการตลาด influencer ใน Thailand อย่างต่อเนื่อง รอติดตามกันนะครับ!
