ในยุคนี้ถ้าพูดถึงช่องทางสร้างรายได้ของอินฟลูเอนเซอร์ไทย อินสตาแกรม (Instagram) คือหนึ่งในเวทีใหญ่ที่ใครก็อยากก้าวเข้ามาสู้ แต่ถ้าจะขยายตลาดไปต่างประเทศอย่างอินเดียที่มีตลาดมหาศาล จะทำยังไงให้แบรนด์อินเดียกล้าหยิบมือเราไปทำงานด้วย? บทความนี้จะพาเพื่อนๆ อินฟลูเอนเซอร์ไทยและนักการตลาดที่สนใจตลาดอินเดีย มาดูภาพรวมจริงจัง พร้อมเคล็ดลับทำ Brand Collaboration ให้ปังแบบเห็นผลจริงในปี 2025
📢 ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ไทยบน Instagram กับโอกาสใหม่สู่แบรนด์อินเดีย
ณ เดือนพฤษภาคม 2025 ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ไทยบน Instagram ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นสร้างคอนเทนต์ลึกซึ้ง เช่น ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ความงาม และอาหาร ที่มีผู้ติดตามหลักแสนถึงล้านคน การร่วมมือกับแบรนด์อินเดียซึ่งมีฐานผู้บริโภคใหญ่และหลากหลาย นับเป็นโอกาสทองที่หลายคนยังมองข้าม
อินเดียมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน และการใช้งานโซเชียลมีเดียเติบโตเร็วมาก แบรนด์อินเดียจึงพร้อมจ่ายงบโฆษณาเพื่อเข้าถึงตลาดต่างประเทศผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น แบรนด์แฟชั่น Suta หรือแบรนด์ความงาม Forest Essentials ที่เปิดโอกาสให้ Creator ต่างชาติได้ลองทำงานร่วมกัน
💡 วิธีเริ่มต้นการ Collaborate ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ไทยกับแบรนด์อินเดีย
1. รู้จักตลาดและวัฒนธรรมอินเดียให้ครบ
ก่อนจะรับงานกับแบรนด์อินเดีย ต้องเข้าใจว่าคนอินเดียชอบอะไร เช่น สีสันจัดจ้าน เทศกาลสำคัญอย่าง Diwali หรือ Holi ที่มีธีมเฉพาะ การทำคอนเทนต์ให้ตรงใจผู้ชมอินเดียจะช่วยเพิ่มโอกาสปิดดีล
2. ใช้ภาษาและคอนเทนต์ที่เข้าใจง่ายบน Instagram
แม้ภาษาอังกฤษจะใช้กันทั่วไป แต่การใส่คำท้องถิ่นหรือสื่อสารด้วยภาษาที่อินเดียเข้าใจง่ายจะช่วยให้คอนเทนต์โดนใจมากขึ้น เช่น การใช้แฮชแท็กที่เหมาะสม หรือใส่คำบรรยายใต้ภาพแบบกระชับ
3. เลือกแพลตฟอร์มชำระเงินที่สะดวก
สำหรับการรับเงิน ควรใช้ช่องทางที่ปลอดภัยและสะดวก เช่น PayPal, Wise หรือการโอนเงินผ่านธนาคารที่รองรับ USD หรือ INR ซึ่งง่ายต่อการแปลงเป็นเงินบาท (THB) เพื่อความคล่องตัวทางการเงิน
4. หาตัวกลางหรือเอเจนซี่ช่วยประสานงาน
ปัจจุบันมีเอเจนซี่ในไทยอย่างเช่น BaoLiba ที่เชี่ยวชาญเรื่องการจับคู่อินฟลูเอนเซอร์ไทยกับแบรนด์ต่างประเทศ ช่วยจัดการเรื่องสัญญา แปลภาษา และความเข้าใจเรื่องกฎหมายการโฆษณาของทั้งสองประเทศ
📊 ตัวอย่างความสำเร็จจากอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่ทำงานกับแบรนด์อินเดีย
หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ “น้องมายด์” อินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่นจากกรุงเทพฯ ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์เครื่องประดับอินเดียอย่าง Amrapali Jewels โดยการนำเสนอคอนเทนต์แนวฟิวชั่นไทย-อินเดีย ทำให้ยอดขายผ่านลิงก์แนะนำโตขึ้นกว่า 30% ในช่วงแคมเปญ Diwali ปี 2024
อีกตัวอย่างคือ “พี่ต้น” นักทำคอนเทนต์อาหารที่เน้นเมนูอินเดีย สูตรง่ายๆ ทำที่บ้าน ที่ได้รับความสนใจจากแบรนด์เครื่องเทศอินเดียหลายราย ช่วยขยายตลาดเข้าไทยและสร้างรายได้เสริมแบบยั่งยืน
❗ เรื่องต้องระวังเมื่อทำงานกับแบรนด์อินเดียบน Instagram
-
กฎหมายและข้อบังคับ: ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าโฆษณาหรือโปรโมชั่นนั้นๆ ไม่ขัดกับกฎหมายการโฆษณาของไทยและอินเดีย เช่น การเปิดเผยว่าเป็นโฆษณา (disclosure) ต้องชัดเจน
-
ค่านิยมวัฒนธรรม: หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์ที่อาจถูกตีความผิดในแต่ละประเทศ เช่น เรื่องศาสนา หรือประเพณี
-
การสื่อสารและเวลา: เนื่องจากมีความต่างเวลาคือ 1 ชั่วโมงครึ่ง (อินเดียช้ากว่าไทย) การตอบแชทหรือจัดประชุมต้องวางแผนดีๆ
### People Also Ask
Instagram อินฟลูเอนเซอร์ไทยจะเริ่มหางานกับแบรนด์อินเดียได้อย่างไร?
เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์อินสตาแกรมให้ดูน่าเชื่อถือ และติดต่อผ่านแพลตฟอร์มจับคู่หรือเอเจนซี่ที่มีเครือข่ายอินเดีย เช่น BaoLiba หรือส่งพอร์ตโฟลิโอไปยังแบรนด์โดยตรงผ่านอีเมล
การรับเงินจากแบรนด์อินเดียควรใช้ช่องทางไหนปลอดภัยที่สุด?
แนะนำใช้ PayPal, Wise หรือการโอนเงินผ่านธนาคารที่รองรับทั้งเงินบาทและรูปีอินเดีย เพื่อป้องกันปัญหาค่าเงินและความล่าช้า
คอนเทนต์แบบไหนที่แบรนด์อินเดียชอบให้อินฟลูเอนเซอร์ไทยทำ?
เน้นคอนเทนต์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย-อินเดีย เช่น แฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ การสาธิตทำอาหารอินเดียแบบง่าย หรือรีวิวสินค้าเน้นเรื่องความงามที่เหมาะกับทั้งสองตลาด
สรุปส่งท้าย
สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่อยากจับมือกับแบรนด์อินเดียบน Instagram นี่คือโอกาสทองที่ต้องรีบเกาะให้ไว เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ใช้ช่องทางชำระเงินที่ปลอดภัย พร้อมเลือกเอเจนซี่ช่วยประสานงานจะทำให้คุณโดดเด่นและปิดดีลได้ง่ายขึ้น
BaoLiba จะยังคงอัปเดตเทรนด์การตลาดและเคล็ดลับการทำงานร่วมกันระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ไทยกับแบรนด์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ติดตามเราไว้เพื่อไม่พลาดโอกาสดีๆ ในวงการ Influencer Marketing ไทย!