ถ้าคุณเป็นอินฟลูเอนเซอร์ Instagram ในไทย หรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์ที่มองหาโอกาสขยายตลาดไปอินโดนีเซีย บทความนี้คือของจริงที่ต้องอ่าน! ในยุคที่เส้นแบ่งพรมแดนทางการตลาดมันเลือนรางไปแล้ว การทำ Brand Collaboration ข้ามประเทศกลายเป็นเรื่องปกติ แต่จะทำยังไงให้การร่วมมือระหว่าง Instagram Influencer ไทย กับแบรนด์อินโดนีเซียมันเวิร์คและปังสุด ๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกวิธีการตั้งแต่พื้นฐาน ยันเทคนิคจริงจังที่ใช้งานได้จริงในปี 2025
📢 ภาพรวมตลาด Instagram และการร่วมมือข้ามประเทศระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Instagram ในไทยยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่อินฟลูเอนเซอร์นิยมใช้ สัดส่วนผู้ใช้งานเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบติดตามเทรนด์แฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ ส่วนอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่ที่โฟกัสคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้น และมีกำลังซื้อสูง การจับมือกันจึงเกิดโอกาส win-win
จนถึง 2025 พฤษภาคม ไทยยังคงใช้เงินบาท (THB) เป็นสกุลเงินหลักในการรับจ่ายค่าจ้าง ขณะที่อินโดนีเซียใช้รูเปียห์ (IDR) ซึ่งต้องระวังเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามประเทศให้ดี
💡 เทคนิคการสร้างความร่วมมือที่เข้าใจง่ายและทำได้เลย
1. เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีฐานแฟนคลับในอินโดนีเซีย
จริงอยู่ที่คุณอาจดังในไทย แต่ถ้าอยากปั่นยอดให้แบรนด์อินโดฯ ต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนติดตามอินโดนีเซียด้วย เช่น คนไทยที่พูดอินโดนีเซียได้ หรือมีคอนเทนต์เกี่ยวกับวัฒนธรรมสองประเทศแบบ “ติดเรท” เช่น @pearypie ที่เป็นที่รู้จักทั้งไทยและชาวอินโด
2. ปรับคอนเทนต์ให้ Localized
อย่าลืมว่าคนอินโดนีเซียชอบอะไร อารมณ์แบบไหน Instagram Story หรือ Reels ที่เน้นเพลงท้องถิ่น หรือแม้แต่การใช้ภาษาอินโดใน Caption จะช่วยให้เข้าถึงง่ายขึ้น
3. ระบบชำระเงินต้องชัวร์
ในไทยส่วนใหญ่ใช้ PromptPay, ธนาคารออนไลน์ หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น TrueMoney Wallet แต่ถ้าแบรนด์อินโดนีเซียจะจ่าย ต้องคุยเรื่องวิธีโอนเงินระหว่างประเทศ อาจใช้ PayPal, Wise หรือระบบโอนเงินระหว่างประเทศที่มีค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด
4. ข้อตกลงและกฎหมายต้องชัดเจน
การทำ Brand Collaboration ข้ามประเทศ ต้องเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา การจ้างงาน และภาษีในทั้งสองประเทศ เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในไทย (PDPA) และกฎหมายที่เกี่ยวกับโฆษณาในอินโดฯ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา
📊 ตัวอย่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำได้ดีจริง
- แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ Streetwear ไทยอย่าง “Sretsis” เคยร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์อินโดฯ ในการทำแคมเปญ Reels ที่เน้นแฟชั่นสตรีทมิกซ์วัฒนธรรม
- อินฟลูเอนเซอร์ไทยอย่าง “Sunisa Jett” ที่มีฐานแฟนอินโดนีเซียสูง ใช้ Instagram ทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าความงามจากแบรนด์อินโดฯ และได้ผลตอบรับดีมาก
❗ คนส่วนใหญ่มักสงสัยเกี่ยวกับการร่วมมือระหว่าง Instagram Influencer ไทย กับแบรนด์อินโดนีเซีย
1. Instagram Influencer ไทยจะเริ่มต้นหางานกับแบรนด์อินโดฯ ยังไงดี?
เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้โปร พร้อมพอร์ตฟอลิโอที่เน้นกลุ่มเป้าหมายอินโดนีเซีย ใช้แพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba หรือ Socialbakers เพื่อเจอแบรนด์ที่สนใจร่วมงาน
2. ค่าตอบแทนการทำงานร่วมกันแบบข้ามประเทศมีรูปแบบไหนบ้าง?
ส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างเหมาจ่าย (Fixed Fee) หรือแบ่งตามยอด Engagement (Performance Based) พร้อมเงื่อนไขการจ่ายเงินชัดเจน รวมถึงผลตอบแทนในรูปแบบของสินค้า (Product Seeding) ก็ยังได้รับความนิยม
3. จะรับมือกับความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรมยังไง?
ถ้าไม่เก่งภาษาอินโดนีเซีย อาจใช้ทีมงานแปลคอนเทนต์ หรือเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่สองภาษาช่วยสื่อสาร อีกอย่างต้องเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
💡 เคล็ดลับเพิ่มโอกาสสำเร็จแบบ 100%
- สร้างความสัมพันธ์กับเอเจนซี่ในอินโดนีเซีย เช่น Sociolla หรือ IDN Media ที่ช่วยจับคู่แบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ได้ตรงเป้า
- ใช้ฟีเจอร์ Instagram Live ร่วมกับแบรนด์อินโดฯ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์
- ติดตามเทรนด์ TikTok และ YouTube Shorts ด้วย เพราะคนอินโดฯ ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เยอะมาก คอนเทนต์ Cross Platform จะช่วยเพิ่มการมองเห็น
📢 สรุปท้ายบท
การทำ Brand Collaboration ระหว่าง Instagram Influencer ไทย กับแบรนด์อินโดนีเซียในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ต้องเข้าใจตลาด การจ่ายเงิน กฎหมาย และวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ใครที่เริ่มทำวันนี้ก็เหมือนได้จองพื้นที่ในตลาดใหญ่อย่างอินโดนีเซียไว้ก่อน
BaoLiba จะคอยอัปเดตเทรนด์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในไทยและต่างประเทศแบบสดใหม่เสมอ สายโซเชียลต้องติดตามไว้ให้ดีนะครับ!