วิธีการที่ Pinterest Influencers ใน Thailand ร่วมมือกับ Brand จาก Japan

เกี่ยวกับผู้เขียน
MaTitie
MaTitie
เพศ: ชาย
คู่หูประจำ: ChatGPT 4o
ติดต่อ: [email protected]
MaTitie เป็นบรรณาธิการของ BaoLiba ผู้เชี่ยวชาญด้าน การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ และ เทคโนโลยี VPN
เขามีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายนักสร้างสรรค์ระดับโลก ที่แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถร่วมมือกันได้อย่างอิสระ ข้ามพรมแดนและแพลตฟอร์มต่าง ๆ
เขาเรียนรู้และทดลองใช้งาน AI, SEO และเครื่องมือ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือครีเอเตอร์ชาวไทยในการเชื่อมต่อกับแบรนด์ระดับโลกและขยายสู่ตลาดสากล

ในยุคที่การตลาดออนไลน์ดุเดือดแบบนี้ การเป็น Pinterest Influencer ใน Thailand แล้วขยายโอกาสไปจับมือกับ Brand จาก Japan นี่คือทองคำแท้! ไม่ใช่แค่เพิ่มรายได้ แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายข้ามประเทศที่แรงสุดๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกวิธีการคอลแลบระหว่าง Pinterest Influencers ไทย กับแบรนด์ญี่ปุ่นแบบจริงจัง ตั้งแต่การใช้โซเชียลมีเดีย การจัดการจ่ายเงิน ไปจนถึงกฎหมายและวัฒนธรรมที่ต้องรู้ให้ครบ

📢 สถานการณ์ตลาด Pinterest และ Influencer Marketing ใน Thailand

ในเดือนพฤษภาคม 2025 นี้ Pinterest เริ่มโตในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ไทยอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่ Pinterest เป็นแพลตฟอร์มเน้นไอเดียและแรงบันดาลใจ ทำให้ Influencer ไทยที่เน้นงานคอนเทนต์สายแฟชัน, ไลฟ์สไตล์, และ DIY ได้เปรียบมาก พวกเขามีฐานแฟนคลับที่พร้อมติดตามไอเดียใหม่ๆ และพร้อมลุยกับแบรนด์ที่มีสตอรี่แบบญี่ปุ่น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ “Mint_Pins” บล็อกเกอร์ Pinterest ชื่อดังในไทย ที่จับมือกับแบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นอย่าง Shiseido ในแคมเปญที่เน้นการสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งหน้าแบบญี่ปุ่น ทำให้ยอด engagement พุ่งกระฉูด และยอดขายแบรนด์ที่ไทยโตตามไปด้วย

💡 วิธีเริ่มต้น Brand Collaboration ระหว่าง Thailand Pinterest Influencers กับ Japan

1. เข้าใจวัฒนธรรมและคอนเทนต์ที่ใช่

เนื่องจากวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่นมีความต่างกัน Influencer ต้องศึกษาแบรนด์ญี่ปุ่นให้ลึก เช่น ความเน้นเรื่องความประณีต, ความเรียบร้อย และความเคารพในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ การสร้างคอนเทนต์จึงต้องบาลานซ์ความเป็นไทยที่เป็นกันเอง กับความละเอียดที่แบรนด์ญี่ปุ่นต้องการ

2. ใช้ช่องทางการติดต่อที่เหมาะสม

ส่วนใหญ่แบรนด์ญี่ปุ่นจะใช้ Email และ LINE Official Account เป็นหลักในการติดต่อ หาก Influencer ไทยอยากเข้าถึงต้องเตรียมตัวเรื่องภาษาและความเป็นมืออาชีพในการสื่อสาร หรือถ้าอยากง่ายขึ้น ก็สามารถผ่านเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่น เช่น “Siam-Japan Marketing Hub” ที่ช่วยประสานงานให้ลื่นไหล

3. เลือกวิธีจ่ายเงินที่สะดวกและถูกกฎหมาย

การรับเงินจากแบรนด์ญี่ปุ่น Influencer ไทยส่วนใหญ่ใช้ช่องทางโอนเงินระหว่างประเทศผ่านธนาคารไทย หรือแพลตฟอร์มอย่าง PayPal, Wise (TransferWise) ที่รองรับเงินบาท (THB) และเยน (JPY) โดยตรง จ่ายเงินแบบนี้จะปลอดภัยและตรวจสอบได้ตามกฎหมายไทย นอกจากนี้ควรเตรียมเอกสารภาษีให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ปวดหัวตอนยื่นภาษีปลายปี

📊 เคล็ดลับการทำงานร่วมกับแบรนด์ญี่ปุ่นให้ปัง

  • เน้นความชัดเจนตั้งแต่ต้นเรื่องคอนเทนต์และ KPI: แบรนด์ญี่ปุ่นจะชอบสเปคชัดๆ เช่น ต้องโพสต์กี่ครั้ง, ใช้แฮชแท็กอะไร, ต้องมี Call-to-action แบบไหน
  • ตั้งเวลาตอบกลับรวดเร็ว: ความเร็วในการตอบข้อความหรืออีเมลช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มโอกาสได้งานต่อ
  • ใช้ภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นในการสื่อสาร: มีแปลภาษาให้พร้อม หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ ให้ใช้เอเจนซี่ช่วยแปล
  • เข้าใจข้อจำกัดทางกฎหมาย: เรื่องลิขสิทธิ์ภาพและเพลงใน Pinterest ต้องระวังอย่างมาก อย่าใช้ของที่แบรนด์ญี่ปุ่นไม่ได้อนุญาต

❗ คำถามที่คนส่วนใหญ่สงสัยเกี่ยวกับ Pinterest Influencer ไทย กับแบรนด์ญี่ปุ่น

Pinterest ใน Thailand เหมาะสำหรับ Influencer ประเภทไหนบ้าง?

Pinterest ในไทยเหมาะกับกลุ่มแฟชัน, ความงาม, งานฝีมือ, และไลฟ์สไตล์ที่ต้องการแรงบันดาลใจ เพราะผู้ใช้ที่นี่มักมาเพื่อหาคอนเทนต์ที่สร้างไอเดียใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่

จะเริ่มต้นหางาน Brand Collaboration กับแบรนด์ญี่ปุ่นได้อย่างไร?

เริ่มจากสร้างโปรไฟล์ Pinterest ให้มีเอกลักษณ์ และเน้นคอนเทนต์ที่ถูกใจตลาดญี่ปุ่น จากนั้นติดต่อผ่านเอเจนซี่ หรือหากลุ่ม Facebook/LinkedIn ที่รวม Influencer ไทย-ญี่ปุ่นไว้ โดยเฉพาะกลุ่มที่พูดถึงการตลาดข้ามประเทศ

การจ่ายเงินระหว่างประเทศมีขั้นตอนยุ่งยากไหม?

ไม่ยากถ้าใช้บริการโอนเงินออนไลน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง PayPal หรือ Wise ซึ่งรองรับสกุลเงินบาทและเยน แต่ต้องตรวจสอบค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี รวมถึงการทำใบกำกับภาษีและรายงานภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย

📢 สรุป

การเป็น Pinterest Influencer ใน Thailand แล้วยิงยาวไปชิปกับแบรนด์ญี่ปุ่นคือโอกาสทองของยุคนี้ การเข้าใจตลาดทั้งสองฝั่ง การสื่อสารที่มืออาชีพ และการใช้ช่องทางจ่ายเงินที่ปลอดภัย จะช่วยให้คอลแลบครั้งนี้ smooth สุดๆ ยิ่งถ้าคุณมีตัวช่วยจากเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญ เช่น BaoLiba ที่เน้นงานข้ามชาติ รับรองว่าโอกาสทำเงินจะเพิ่มแบบก้าวกระโดด

BaoLiba จะยังคงอัปเดตเทรนด์และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ในตลาด Thailand อย่างต่อเนื่อง อย่าลืมติดตามเรานะครับ!

Scroll to Top