ยุคนี้ถ้าพูดถึง TikTok ที่แรงไม่หยุดในเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จักเหล่า Influencer นับล้านที่สร้างคอนเทนต์จนปังเปรี้ยง แต่ถ้าจะก้าวข้ามแดนไปจับมือกับแบรนด์อินโดนีเซียล่ะ? เรื่องนี้ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องเข้าใจจังหวะตลาด ความต่างวัฒนธรรม และระบบการจ่ายเงินให้เป๊ะ
ในบทความนี้ เราจะพา Influencer ไทยและเอเจนซี่สายโซเชียลที่อยากขยายตลาดไปอินโดนีเซียแบบเน้น ๆ ว่าต้องทำยังไงให้การ Brand Collaboration บน TikTok ราบรื่น ได้เงินไว แถมไม่สะดุดเรื่องกฎหมาย
📢 สถานการณ์ TikTok Influencer ไทยและโอกาสในอินโดนีเซีย
ณ เดือนพฤษภาคม 2025 การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในไทยยังร้อนแรงโดยเฉพาะบน TikTok ที่มีผู้ใช้งานหลักเป็น Gen Z และ Millennials มากกว่าครึ่ง การจับมือกับแบรนด์ท้องถิ่นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากจะขยายไปอินโดนีเซีย ตลาดที่มีกว่า 270 ล้านคน ผู้ใช้งาน TikTok กว่า 120 ล้านราย ก็ต้องเข้าใจความต่างของพฤติกรรมผู้บริโภคและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน
อินโดนีเซียเน้นความเป็น “local” มาก ๆ เช่นเดียวกับไทย ยิ่งถ้า Influencer ไทยสามารถทำคอนเทนต์ที่สามารถสื่อสารกับคนอินโดได้แบบไม่ดูฝืนหรือแปลกแยก โอกาสปังมีสูงมาก
💡 เทคนิคการจับมือกับแบรนด์อินโดนีเซียบน TikTok
1. เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอินโดนีเซีย
อินโดนีเซียชอบคอนเทนต์ที่สนุกสนาน มีมุกตลก หรือใช้ภาษาแบบกันเองใกล้ชิดมากกว่า Influencer ไทยควรศึกษาการใช้ภาษาสแลงและเทรนด์ที่อินโดนิยม เช่น การใช้ภาษา Bahasa Indonesia ที่ผสมกับภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น
2. เลือกแบรนด์ที่มีความสอดคล้องกับตัวตน
แบรนด์อินโดนีเซียที่นิยมร่วมงานกับ TikTok Influencer ไทยมีทั้งกลุ่มแฟชั่น ความงาม และอาหาร เช่น Wardah (เครื่องสำอางค์), Indomie (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) และ Tokopedia (อีคอมเมิร์ซ) การเลือกแบรนด์ที่มี DNA ใกล้เคียงกับคอนเทนต์ของเรา จะทำให้การ Brand Collaboration ดูเนียนและเชื่อมโยงกับผู้ชมมากขึ้น
3. ใช้แพลตฟอร์มจัดการงานที่รองรับสองประเทศ
การจะทำงานข้ามแดนเรื่องการจ่ายเงินและคอนแทรกต์อาจปวดหัว Influencer ไทยนิยมใช้บริการเอเจนซี่หรือแพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba ที่ช่วยจัดการเรื่องการจ่ายเงินผ่านสกุลเงินบาท (THB) และรูเปียห์ (IDR) พร้อมตรวจสอบกฎหมายการโฆษณาของทั้งสองประเทศ ทำให้ไม่ต้องกลัวโดนแบนหรือโดนฟ้อง
4. ระบบการชำระเงินที่สะดวกและโปร่งใส
ในไทยจ่ายผ่าน PromptPay หรือโอนผ่านธนาคาร ส่วนอินโดนีเซียจะนิยมใช้ GoPay หรือ OVO การเตรียมระบบรับเงินสองทางแบบนี้ช่วยให้ Influencer ไทยไม่ต้องเสียเวลาแปลงเงินเอง บางแพลตฟอร์มยังช่วยแปลงสกุลเงินโดยตรงให้ด้วย
5. เคล็ดลับจัดการคอนเทนต์ให้โดนใจคนอินโด
การทำคอนเทนต์ควรใส่เทรนด์ TikTok อินโด เช่น เพลงฮิต หรือชาเลนจ์ที่กำลังมาแรง รวมถึงการใช้คำพูดและสัญลักษณ์วัฒนธรรมที่อินโดเข้าใจ เช่น การเล่นมุขแบบ “ngakak” หรือเสียงหัวเราะที่อินโดชอบ
📊 ตัวอย่างกรณีศึกษา Influencer ไทยที่ปังในอินโดนีเซีย
หนึ่งใน Influencer ที่ประสบความสำเร็จคือ @Mint_Theerada ที่เริ่มต้นจากการทำคอนเทนต์ความงามในไทย แล้วจับมือกับแบรนด์ Wardah ในอินโดนีเซียโดยตรง ผ่าน BaoLiba ช่วยประสานงานเรื่องสัญญาและการจ่ายเงิน ทำให้ Mint ได้รับค่าตอบแทนเป็นสกุลเงินรูเปียห์ที่แปลงเป็นบาทได้ทันที โดยคอนเทนต์ของเธอถูกออกแบบให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายอินโด เช่น การรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวชาวอินโดและผสมผสานวัฒนธรรมสองประเทศ
❗ คำถามที่คนสงสัยบ่อย (People Also Ask)
TikTok Influencer ไทยสามารถโปรโมตแบรนด์อินโดนีเซียได้อย่างไร?
เริ่มจากการทำความเข้าใจตลาดอินโด ใช้ภาษาและวัฒนธรรมให้เหมาะสม เลือกแบรนด์ที่สอดคล้องกับตัวเอง และใช้แพลตฟอร์มเอเจนซี่ที่ช่วยจัดการงานข้ามประเทศ เช่น BaoLiba
การรับเงินจากแบรนด์อินโดนีเซียง่ายไหม?
ถ้าใช้แพลตฟอร์มหรือเอเจนซี่ที่รองรับการจ่ายเงินข้ามประเทศ จะช่วยให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นมาก เพราะเขาจะดูแลเรื่องการแปลงสกุลเงินและระบบการโอนเงินให้เรียบร้อย
ต้องระวังอะไรบ้างในการทำงานกับแบรนด์อินโดนีเซีย?
ต้องเข้าใจกฎหมายโฆษณาของอินโดนีเซียและไทย ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงสร้างคอนเทนต์ที่ไม่ขัดวัฒนธรรมท้องถิ่นและไม่สร้างความขัดแย้งทางสังคม
📢 สรุป
การจับมือระหว่าง TikTok Influencer ไทยกับแบรนด์อินโดนีเซียไม่ได้ไกลเกินเอื้อมเลย แค่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับตลาดใหม่ ใช้เครื่องมือช่วยจัดการงาน และเข้าใจความต่างทางวัฒนธรรมให้ดี การ Brand Collaboration ระหว่างสองประเทศนี้จะช่วยขยายโอกาสและรายได้แบบก้าวกระโดด
สำหรับใครที่อยากลุยตลาดอินโดแบบจริงจัง แนะนำให้ใช้ BaoLiba เป็นตัวช่วยบริหารงาน เพราะเขามีระบบที่ครอบคลุมตั้งแต่การหางาน ติดต่อแบรนด์ ไปจนถึงการรับเงินแบบรวดเร็วและปลอดภัย
BaoLiba จะคอยอัปเดตเทรนด์และเคล็ดลับการตลาด Influencer ใน Thailand อย่างต่อเนื่อง อย่าลืมติดตามกันนะครับ!
