ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้โลกอินฟลูเอนเซอร์ใน LinkedIn ของประเทศไทย คุณจะรู้เลยว่าช่องทางนี้ไม่ได้มีดีแค่สร้างคอนเนคชั่นในไทยเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูบานใหญ่สู่ตลาดต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาได้อีกด้วย
วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงและเทคนิคที่อินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ไทยควรรู้ เพื่อสร้าง Brand Collaboration กับแบรนด์สหรัฐให้ปังแบบปังมาก
📢 ภาพรวมตลาด LinkedIn อินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทย
LinkedIn ในไทยช่วง 2-3 ปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด คนทำคอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์เริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้สร้าง Personal Branding กันจริงจังขึ้น เพราะเน้นกลุ่มโปรฯ จบสูงและกลุ่ม decision makers ซึ่งเหมาะมากสำหรับแบรนด์สหรัฐที่อยากเจาะตลาด B2B หรือกลุ่มมืออาชีพในไทย
อินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ไทยที่ดังๆ อย่าง “คุณเต้ ปัญญา” หรือ “คุณอุ้ม วิชยา” ก็เริ่มมีฐานแฟนคลับในสหรัฐด้วย เพราะเนื้อหาคุณภาพและพูดเรื่องเทรนด์ธุรกิจโลก ทำให้แบรนด์สหรัฐสะดุดตาและอยากร่วมมือ
💡 เทคนิคจับมือแบรนด์สหรัฐจากมุมอินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ไทย
1. เข้าใจวัฒนธรรมและกติกาการทำงานของแบรนด์สหรัฐ
แบรนด์สหรัฐชอบความโปร่งใสและชัดเจนเรื่อง KPI การวัดผลต้องวัดได้ ไม่ใช่แค่ยอดไลค์หรือคอมเมนต์ แต่เน้นการสร้าง Lead หรือ Conversion เช่น การนัดประชุมผ่าน Zoom หรือการดาวน์โหลด Whitepaper
อินฟลูเอนเซอร์ไทยควรเตรียมตัวนำเสนอแผนการทำงานที่ละเอียด ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย ช่องทางสื่อสาร ไปจนถึงการชำระเงินและสัญญา เพราะแบรนด์สหรัฐมักมีข้อกำหนดทางกฎหมายค่อนข้างเข้มงวด
2. ใช้ระบบชำระเงินที่สะดวกและน่าเชื่อถือ
ในแง่การจ่ายเงิน แบรนด์สหรัฐมักใช้ PayPal หรือ Wire Transfer ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์ไทยต้องมีบัญชีรองรับ และควรเช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท (THB) ให้ดี เพราะค่าธรรมเนียมและความผันผวนของค่าเงินมีผลกับรายได้โดยตรง
3. เลือกเนื้อหาที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งสองประเทศ
เนื้อหาที่ทำลง LinkedIn ควรเน้นด้านธุรกิจ เทคโนโลยี หรือเทรนด์อุตสาหกรรมที่น่าสนใจทั้งในไทยและสหรัฐ เช่น การเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (Digital Transformation) หรือ ESG (Environmental Social Governance) ที่แบรนด์สหรัฐให้ความสำคัญ
4. ใช้ภาษาอังกฤษอย่างมือโปร
ถึงจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ไทย แต่การสื่อสารกับแบรนด์สหรัฐต้องเนียน ไม่ใช่แค่แปลตรงตัว แต่ต้องเข้าใจบริบทและน้ำเสียงที่เหมาะสม ทำให้แบรนด์รู้สึกว่าเรา “ของจริง” และมืออาชีพ
📊 ตัวอย่างกรณีศึกษาอินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ไทยจับมือแบรนด์สหรัฐ
“คุณบอส” อินฟลูเอนเซอร์สายเทคโนโลยีจากกรุงเทพฯ ใช้ LinkedIn สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับ AI และ Cloud Computing โดยมีผู้ติดตามหลักแสน มีแบรนด์สหรัฐอย่าง AWS และ Microsoft ติดต่อให้ทำคอนเทนต์และ Webinar ร่วมกัน
บทเรียนสำคัญคือ คุณบอสทำงานกับเอเยนซี่ท้องถิ่นที่เชี่ยวชาญเรื่องสัญญาต่างประเทศและการชำระเงิน ทำให้ขั้นตอนราบรื่นและไม่มีปัญหาด้านกฎหมาย
❗ สิ่งที่ต้องระวังเมื่อทำ Brand Collaboration ข้ามประเทศ
- กฎหมายและภาษี: ต้องตรวจสอบเรื่องภาษีระหว่างประเทศและเอกสารภาษีให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
- ความแตกต่างทางวัฒนธรรม: สไตล์การสื่อสารหรือเนื้อหาอาจต้องปรับให้เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝั่ง
- ความคาดหวังเรื่องผลลัพธ์: แบรนด์สหรัฐมักมีมาตรฐานสูงและต้องการผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ต้องคุยเป้าหมายให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น
### People Also Ask
LinkedIn ในไทยเหมาะกับการทำ Brand Collaboration กับสหรัฐไหม
เหมาะมาก เพราะ LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นกลุ่มมืออาชีพและ B2B ซึ่งเป็นตลาดหลักของแบรนด์สหรัฐหลายรายที่ต้องการเจาะตลาดไทย
การรับเงินจากแบรนด์สหรัฐมีวิธีไหนบ้าง
ส่วนใหญ่เป็น PayPal, Wire Transfer หรือผ่านระบบ Payment Gateway ที่รองรับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แนะนำให้เตรียมบัญชีที่รองรับการโอนเงินต่างประเทศและศึกษาภาษีให้ชัดเจน
อินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ไทยควรเน้นเนื้อหาแบบไหน
เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับธุรกิจ เทคโนโลยี การพัฒนาทักษะ หรือเทรนด์อุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจของแบรนด์สหรัฐและกลุ่มผู้ชมมืออาชีพ
สรุป
การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ LinkedIn ในประเทศไทยแล้วจับมือทำ Brand Collaboration กับแบรนด์สหรัฐไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ต้องเข้าใจทั้งเรื่องวัฒนธรรมธุรกิจ การชำระเงิน และการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ
ณ วันที่ 2025ปี4เดือนนี้ ตลาด LinkedIn ไทยยังเติบโตแรง อินฟลูเอนเซอร์ที่จับจุดได้ก่อนมีโอกาสโกอินเตอร์กับแบรนด์ระดับโลกได้ง่ายขึ้น
BaoLiba จะยังคงอัปเดตเทรนด์และเคล็ดลับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ใน Thailand อย่างต่อเนื่อง รอติดตามกันได้เลย!