วิธีทำงานกับแบรนด์เกาหลีสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ไทยบนอินสตาแกรม

เกี่ยวกับผู้เขียน
MaTitie
MaTitie
เพศ: ชาย
คู่หูประจำ: ChatGPT 4o
ติดต่อ: [email protected]
MaTitie เป็นบรรณาธิการของ BaoLiba ผู้เชี่ยวชาญด้าน การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ และ เทคโนโลยี VPN
เขามีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายนักสร้างสรรค์ระดับโลก ที่แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถร่วมมือกันได้อย่างอิสระ ข้ามพรมแดนและแพลตฟอร์มต่าง ๆ
เขาเรียนรู้และทดลองใช้งาน AI, SEO และเครื่องมือ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือครีเอเตอร์ชาวไทยในการเชื่อมต่อกับแบรนด์ระดับโลกและขยายสู่ตลาดสากล

ถ้าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่เล่น Instagram ในประเทศไทย แล้วอยากลองขยับขยายไปจับมือกับแบรนด์จากเกาหลีใต้ บทความนี้เหมาะมาก เพราะผมจะเล่าจากประสบการณ์ตรงและเทรนด์ล่าสุดในตลาดปี 2025 มาแชร์ต่อแบบไม่มีกั๊ก

ทั้งเรื่องการใช้โซเชียลฯ ช่องทางชำระเงิน การเข้าใจวัฒนธรรมธุรกิจเกาหลี ไปจนถึงกฎหมายที่ควรรู้ เพื่อให้การทำ Brand Collaboration ของคุณลื่นไหลและปังแบบได้กำไรจริง

📢 เทรนด์ Instagram ในไทยและเกาหลีใต้ ปี 2025

ณ เดือนพฤษภาคม 2025 Instagram ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตในไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นยันวัยทำงานที่ชอบดูคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์ ความงาม และแฟชั่น ส่วนเกาหลีใต้เองก็ยืนหนึ่งเรื่อง K-Beauty K-Fashion ที่ดันยอดขายผ่าน Influencer Marketing ไปไกลมาก

การที่อินฟลูเอนเซอร์ไทยจะร่วมมือกับแบรนด์เกาหลีทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพราะตลาดเกาหลีก็ต้องการเจาะกลุ่มแฟนคลับเกาหลีในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

💡 วิธีจับมือกับแบรนด์เกาหลีบน Instagram

1. เข้าใจความต่างของวัฒนธรรมและการสื่อสาร

การติดต่อกับแบรนด์เกาหลีควรใช้ภาษาอังกฤษหรือเกาหลีกลาง (ถ้ารู้) ในการสื่อสารอย่างเป็นทางการ เพราะแบรนด์เกาหลีมักเน้นความสุภาพและเป็นทางการมากกว่าคนไทย

อย่าลืมว่าคอนเทนต์ที่ทำให้แบรนด์เกาหลีสนใจมักจะเน้นคุณภาพสูงและความเป็นตัวเอง (Authenticity) ที่แตกต่างจากอินฟลูเอนเซอร์ไทยบางส่วนที่เน้นความฮา หรือความน่ารักแบบบ้าน ๆ

2. เลือกนิชที่ตรงกับตลาดเกาหลี

ถ้าคุณทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ K-Beauty, K-Fashion, หรือ Lifestyle เกาหลี จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการทาบทามจากแบรนด์เกาหลี เพราะเขาต้องการโปรโมตสินค้าให้ถูกกลุ่มเป้าหมายที่เข้าใจวัฒนธรรมเกาหลี

ตัวอย่างอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่ทำได้ดี เช่น “Pimtha” หรือ “Archita Station” ที่มีฐานแฟนคลับสนใจเกาหลีเยอะ และเคยร่วมงานกับแบรนด์เกาหลีมาแล้ว

3. ใช้แพลตฟอร์มกลางช่วยจับคู่ Brand Collaboration

ในไทยมีแพลตฟอร์มอย่าง “BaoLiba” ที่ช่วยจับคู่ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์ต่างประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้ด้วย ฟีเจอร์ครบ ตั้งแต่คัดกรองแบรนด์ ไปจนถึงระบบชำระเงินที่รองรับเงินบาท (THB) และวอนเกาหลี (KRW)

การใช้แพลตฟอร์มนี้จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการโดนโกง หรือปัญหาภาษีที่บางครั้งเกิดขึ้นกับการทำงานข้ามประเทศ

4. ระบบจ่ายเงินที่เข้าใจง่าย

แบรนด์เกาหลีส่วนใหญ่จะจ่ายเงินผ่านช่องทางที่ปลอดภัย เช่น PayPal หรือโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศ (SWIFT) แต่ถ้าใช้งานผ่านแพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba ก็จะมีระบบรองรับการแปลงสกุลเงินอย่างราบรื่น

ในไทยเราใช้เงินบาทไทย (THB) เป็นหลัก ดังนั้นการได้รับเงินในสกุลนี้จะง่ายต่อการบริหารจัดการภาษีและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

📊 ตัวอย่างกรณีศึกษาของอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่ Collaboration กับแบรนด์เกาหลี

“MayyR” อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ที่มีผู้ติดตามหลักล้านบน Instagram เคยร่วมงานกับแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีชื่อดังอย่าง Innisfree ผ่าน BaoLiba โดยเธอใช้คอนเทนต์รีวิวแบบ Storytelling ที่เน้นโชว์ขั้นตอนการใช้จริงและผลลัพธ์ ทำให้ยอดขายในไทยพุ่งสูงขึ้น

เคล็ดลับของ MayyR คือการวางแผนคอนเทนต์ให้ตรงกับเทศกาลใหญ่ในเกาหลี เช่น “Chuseok” หรือช่วงปล่อยคอลเลกชันใหม่ จากนั้นใช้ฟีเจอร์ IG Live เพื่อพูดคุยกับแฟน ๆ แบบเรียลไทม์ สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่ม Engagement

❗ กฎหมายและข้อควรระวังเมื่อทำงานกับแบรนด์เกาหลี

  • ต้องรู้เรื่องภาษีทั้งในไทยและเกาหลี เพราะบางกรณีรายได้จากต่างประเทศอาจต้องเสียภาษีซ้ำซ้อน แนะนำให้ปรึกษานักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่อง Cross-border Tax
  • การใช้ภาพลิขสิทธิ์และเพลง ต้องระวังไม่ให้โดนแบนบน Instagram เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์ในเกาหลีเข้มงวด
  • สัญญาการทำงานควรอ่านให้ละเอียด โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาการใช้คอนเทนต์และค่าตอบแทน เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง

### People Also Ask

Instagram อินฟลูเอนเซอร์ไทยจะเริ่มหางานกับแบรนด์เกาหลีได้ยังไง

เริ่มจากสร้างโปรไฟล์ที่น่าสนใจในแพลตฟอร์มจับคู่ เช่น BaoLiba และเน้นทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเกาหลี จากนั้นติดต่อแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มหรือเอเจนซี่ที่มีเครือข่ายในเกาหลี

การชำระเงินระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ไทยกับแบรนด์เกาหลีทำอย่างไร

ส่วนใหญ่ใช้ PayPal หรือโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศ แต่ถ้าใช้แพลตฟอร์มกลางอย่าง BaoLiba จะมีระบบจัดการเรื่องสกุลเงินและภาษีให้เรียบร้อย

ต้องระวังอะไรบ้างเมื่อร่วมงานกับแบรนด์เกาหลี

ต้องระวังเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ ภาษีข้ามประเทศ และสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คอนเทนต์ รวมถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

สรุป

การทำ Instagram Brand Collaboration ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ไทยกับแบรนด์เกาหลีในปี 2025 มีโอกาสทองมาก เพราะตลาดทั้งสองฝั่งต่างเปิดกว้างและต้องการขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สิ่งที่ต้องเน้นคือการเข้าใจวัฒนธรรมและการสื่อสารแบบมืออาชีพ เลือกแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดการงานและการเงินให้สะดวก และวางแผนคอนเทนต์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

BaoLiba จะยังคงติดตามและอัปเดตเทรนด์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในไทยและเกาหลีอย่างใกล้ชิด อย่าลืมติดตามเราเพื่อไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในวงการนี้!

Scroll to Top