ในยุคดิจิทัลที่โลกแคบลงแบบนี้ การจับมือกันระหว่าง Influencer กับแบรนด์ข้ามประเทศกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับ LinkedIn Influencers ใน Thailand ที่อยากขยายปีกไปเจาะตลาดญี่ปุ่น งานนี้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป ถ้าเข้าใจวิธีเล่นเกมตลาด สังคมธุรกิจ และวิธีสื่อสารที่ถูกต้อง วันนี้เราจะมาปูพื้นฐานกันแบบตรงไปตรงมา ว่าจะทำยังไงให้ Brand Collaboration ระหว่าง Thailand และ Japan บน LinkedIn ดึงดูดใจสองฝ่ายและปิดดีลได้ไวๆ
ณ เดือนพฤษภาคม 2025 ตลาดการตลาดออนไลน์ใน Thailand กำลังเปลี่ยนโหมดไปทาง B2B และ Professional Networking บน LinkedIn กำลังมาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไทยเริ่มใช้ LinkedIn จริงจังมากขึ้นในแง่ธุรกิจและการหาคอนเนคชั่นระดับองค์กร
📢 ทำไม LinkedIn ถึงเป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับ Influencer ไทยจับมือกับแบรนด์ญี่ปุ่น
LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นความเป็นมืออาชีพและเครือข่ายธุรกิจแบบจริงจัง แตกต่างจาก Facebook หรือ Instagram ที่เน้นความบันเทิงและภาพลักษณ์ส่วนตัว ดังนั้น Influencer บน LinkedIn จึงมักจะเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะทาง มีประสบการณ์ในสายอาชีพ และพร้อมจะสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง
ใน Thailand เอง LinkedIn มีผู้ใช้งานหลักเป็นกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ และคนรุ่นใหม่ที่อยากก้าวหน้าทางอาชีพ ทำให้การจับมือกับแบรนด์ญี่ปุ่นที่เน้นเทคโนโลยี การผลิต หรือบริการระดับโลก เป็นโอกาสทอง เพราะแบรนด์ญี่ปุ่นเองก็อยากได้ Partner ที่น่าเชื่อถือและเข้าใจตลาดไทยจริงๆ
ตัวอย่าง Influencer ไทยที่ทำได้ดี เช่น คุณ “ต้น กูรู Digital Marketing” ที่ใช้ LinkedIn สร้างคอนเทนต์เชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์การตลาดดิจิทัล และเคยร่วมงานกับหลายแบรนด์ญี่ปุ่นในกลุ่มเทคโนโลยีและการพัฒนาองค์กร
💡 วิธีทำ Brand Collaboration ระหว่าง LinkedIn Influencer ไทย กับแบรนด์ญี่ปุ่น
1. เข้าใจความต่างทางวัฒนธรรมและการสื่อสาร
ญี่ปุ่นเน้นความเป็นทางการ ความละเอียด และความน่าเชื่อถือสูง Influencer ไทยต้องปรับสไตล์การสื่อสารให้เหมาะสม เช่น ใช้ภาษาที่สุภาพ มีความชัดเจนและตรงประเด็น รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่แค่การปิดดีลครั้งเดียว
2. เลือก Influencer ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีความน่าเชื่อถือในตลาดญี่ปุ่น
ไม่ใช่ทุก Influencer ที่มี Followers เยอะจะเหมาะกับแบรนด์ญี่ปุ่น แนะนำให้เลือกคนที่มีประวัติการทำงานชัดเจน มีคอนเทนต์คุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่แบรนด์สนใจ เช่น เทคโนโลยี, การเงิน, หรืออุตสาหกรรมการผลิต
3. ใช้การจ่ายเงินที่สะดวกและถูกกฎหมาย
การทำ Brand Collaboration ข้ามประเทศต้องระวังเรื่องการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยใน Thailand การจ่ายเงินส่วนใหญ่ใช้เงินบาท (THB) ผ่านระบบธนาคารที่รองรับการโอนเงินระหว่างประเทศอย่าง SWIFT หรือระบบ Payment Gateway ที่รองรับสกุลเงินเยน (JPY) เพื่อความสะดวกและโปร่งใส
4. ดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับการโฆษณาของทั้งสองประเทศ
Thailand มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการโฆษณาและการใช้ Influencer ที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น ต้องระบุว่าคอนเทนต์เป็นการโฆษณาหรือสปอนเซอร์ รวมถึงต้องเคารพกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ในขณะที่ญี่ปุ่นก็มีข้อบังคับเข้มงวดในเรื่องการโฆษณาและการทำธุรกิจข้ามประเทศ
5. ทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งสองตลาด
คอนเทนต์ต้องมีความเป็นสากลแต่ยังแฝงความ Localize เช่น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ผสมผสานวัฒนธรรมสองประเทศ และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การยิงโฆษณาแบบเน้นขายอย่างเดียว
📊 ตัวอย่างการ Collaboration ที่เกิดขึ้นจริงใน Thailand
บริษัท “Siam Tech Solutions” จากไทย เคยจับมือกับแบรนด์ญี่ปุ่นด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม โดยเลือก Influencer ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม มาเล่าเรื่องการนำเทคโนโลยีญี่ปุ่นมาปรับใช้ในโรงงานไทย ผ่าน LinkedIn ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทั้งสองประเทศและขยายตลาดได้ดี
### People Also Ask
LinkedIn Influencers ใน Thailand จะเริ่มหาพาร์ทเนอร์แบรนด์ญี่ปุ่นได้ยังไง
เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูโปรเฟสชันนัล อัพเดตผลงานและความเชี่ยวชาญให้ชัดเจน จากนั้นใช้ฟีเจอร์ค้นหาและเชื่อมต่อกับผู้บริหารหรือฝ่ายการตลาดของแบรนด์ญี่ปุ่นที่สนใจในตลาดไทย รวมถึงเข้าร่วมกลุ่ม LinkedIn ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
การจ่ายเงินสำหรับ Brand Collaboration ระหว่าง Thailand กับ Japan ต้องระวังอะไรบ้าง
ต้องเลือกช่องทางที่ถูกกฎหมายและมีความปลอดภัยสูง เช่น ธนาคารที่รองรับการโอนเงินระหว่างประเทศ และควรทำสัญญาชัดเจนเรื่องเงินค่าแรง รวมถึงตรวจสอบภาษีและข้อกฎหมายของทั้งสองประเทศเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
Influencer ไทยควรมีทักษะอะไรเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดแบรนด์ญี่ปุ่น
นอกจากความเชี่ยวชาญด้านสายงานแล้ว ควรฝึกทักษะการสื่อสารสองภาษา (ไทย-อังกฤษ หรือ ไทย-ญี่ปุ่น) เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น และมีความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่เน้นความเป็นมืออาชีพ เหมาะกับตลาด B2B
❗ สรุป
การใช้ LinkedIn เป็นเวทีสำหรับ Influencer ไทยร่วมงานกับแบรนด์ญี่ปุ่นนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจในหลายมิติ ทั้งวัฒนธรรม การสื่อสาร กฎหมาย และการเงิน ถ้าเล่นถูกจังหวะและเลือกพาร์ทเนอร์ดีๆ จะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ได้มาก ในยุคที่ตลาด B2B และ Professional Networking กำลังร้อนแรงแบบนี้
BaoLiba จะยังคงติดตามและอัปเดตเทรนด์การตลาดและการทำงานร่วมกับ Influencer ใน Thailand อย่างต่อเนื่อง ฝากติดตามกันด้วยนะครับ!
